Logo
User
Memberสมัครสมาชิก

ซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา กระทบไกลถึงท่าเรือไทย เรือดีเลย์ - สินค้าแออัด

ซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา กระทบไกลถึงท่าเรือไทย เรือดีเลย์ - สินค้าแออัด

ซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา กระทบไกลถึงท่าเรือไทย เรือดีเลย์ - สินค้าแออัด

เขียนโดย

Kittisak Jinjo

ซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา กระทบไกลถึงท่าเรือไทย เรือดีเลย์ - สินค้าแออัด

หลังจากพายุรากาซาได้ก่อตัวกลางมหาสมุทรแปซิฟิก และยกระดับขึ้นเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น ขึ้นฝั่งที่ตอนใต้ของประเทศจีนและเวียดนามตอนเหนือในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

นอกเหนือจากจะเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อหลายประเทศ โดยเฉพาะไต้หวันซึ่งเผชิญกับฝนตกหนักต่อเนื่อง มีรายงานผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก ขณะที่จีนตอนใต้และฮ่องกงก็ได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรงและน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ท่าเรือหลายแห่งต้องหยุดให้บริการชั่วคราว

 

เส้นทางเดินเรือหลายสายถูกระงับหรือเปลี่ยนเส้นทาง ท่าเรือหลักในภูมิภาค เช่น ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ และเกาสง ต้องหยุดดำเนินการบางส่วน

 

ส่วนในประเทศไทยแม้จะไม่ได้อยู่ในเส้นทางตรงของพายุ แต่สิ่งที่กำลังจะตามมาคือกองเรือและปริมาณตู้สินค้ามหาศาลที่จะทะลักเข้าประเทศหลังจากกองเรือสินค้าหลายลำต้องหนีพายุและดีเลย์กันมาอย่างต่อเนื่องจากหลายท่าเรือไล่เรียงมาตั้งแต่ในทะเลเหลือง ทะเลจีนตะวันออก และทะเลจีนใต้ ซึ่งถือเป็นแหล่งเรือสินค้าชุกชุมอันดับต้นๆของโลก

 

โดยปัจจุบันก็พบปัญหาจากเรือสินค้าดีเลย์บ้างแล้ว โดยเฉพาะในท่าเรือแหลมฉบังที่ต้องกลับมาเผชิญปัญหาปริมาณรถสินค้าแออัดภายในท่า ซึ่งทำให้ระยะเวลารอคอยพุ่งสูงขึ้นถึงหลักสิบชั่วโมง

 

และมีการคาดการณ์เบื้องต้นว่าน่าจะปริมาณเรือสินค้าดีเลย์ตามมาอีกอย่างน้อยในช่วง 5-7 วันหลังจากนี้

 

พายุลูกนี้สอดคล้องกับพยากรณ์อากาศของเอเชียตะวันออกรวมถึงภูมิภาคบ้านเรา (Western North Pacific) ซึ่งโดยทั่วไปพยากรณ์ว่าจะมีฤดูกาลมรสุมใกล้สภาวะปกติ (near-normal) ถ้าเทียบฤดูกาลมรสุมกับปี 2024 จะมีความถี่ของเหตุการณ์และความรุนแรงมากกว่าเล็กน้อย นั่นหมายความว่ามีโอกาสที่จะเจอเรือ Delay มากกว่าปี 2024 ที่ผ่านมา

 

โดยในช่วงนี้ผู้ส่งออกอาจต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าทางทะเลที่เพิ่มขึ้นจากเหตุปัจจัยด้านสภาพอากาศ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายภายในประเทศ และหลังจากนี้ราว 1-2 สัปดาห์หากสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะถือเป็นข่าวดีกับผู้ส่งออกที่ค่าใช้จ่ายน่าจะลดลงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยอ่านเพิ่มเติมได้ที่ คาดการณ์ค่าระวางครึ่งปีหลัง 2025